บรรยากาศภายในบ้านช่วยให้ลูกเฉลียวฉลาดได้อย่างน่าอัศจรรย์

คุณแม่ต้องสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นภายในบ้าน เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดเห็น ให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เช่น การบอกลูกว่าแม่รักลูกนะแม่จึงคอยทำอะไรให้ลูก  การให้เขาได้มีโอกาสเลือกเสื้อผ้าของตัวเองว่าวันนี้จะใส่ตัวไหน เป็นต้น
คุณแม่จะเป็นครูคนแรกของลูก เราต้องสอนลูกให้เรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมให้ได้ ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกในการอยู่ในสังคม สร้างสภาพแวดล้อมที่จะกระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้โดยการพูดคุยกะเด็ก การตั้งอกตั้งใจฟังเรื่องของเขาบางครั้งคุณแม่ก็ยุ่งจนไม่มีเวลาแต่คุณแม่ก็อาศัยทุกช่วงเวลาในการสอนลูกให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างเวลาคุณแม่กวาดบ้าน คุณแม่ก็จะให้ลูกช่วยกวาดบ้านด้วย อย่างที่บ้านก็ไปซื้อไม้กวาดเล็กๆมาให้ลูกใช้กวาดบ้าน กวาดบ้านไป สอนไป คุยไป ร้องเพลงไป คุณแม่ได้ทำงานบ้านด้วยในขณะเดียวกันก็ได้สอนลูกให้เรียนรู้
การพัฒนาลูกอีกอย่างก็คือการชมเวลาเค้าทำอะไรที่เราอยากให้เขาทำ เช่น การไหว้ผู้ใหญ่เราก็ชมทันทีหลังจากที่เข้าไหว้ แต่อย่าชมจนพร่ำเพรื่อ บางครั้งที่มีคนประทับใจในตัวเขาคุณก็กลับมาเล่าให้เค้าฟังว่ามีคนชมเขาประทับใจเขา
คุณแม่ต้องคอยพิถีพิถันคำพูดกับลูก ต้องใช้คำพูดที่ประกอบด้วยคำอธิบายเสมอพร้อมเหตุผล เช่นคุณแม่มักพูดพฤติกรรมของลูกเชื่อมโยงกับบรรยากาศในขณะนั้นที่อยู่ อย่างเช่น เปาเปาครับ ตอนนี้เปาเปากำลังร้องเพลงเพราะเปาเปาอารมณ์ดีเมื่อได้มาเล่นม้าหมุนใช่ไหม
คุณแม่ควรมีวิธีที่จะจูงใจให้ลูกพยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด เช่น อาจจะบอกว่าคุณแม่รู้มันยากนะคะแต่ลูกก็เคยลองทำสิ่งที่ยากมาแล้วใช่มั้ย ตอนสมัยก่อนลูกยังพยายามวิ่งขนาดล้มแล้วล้มอีกก็ยังลุกขึ้นวิ่งต่อเลย บางทีเป็นแผลที่หัวเข่าก็ยังวิ่งต่อเลย วันนี้คุณแม่พาลูกไปที่ทำงาน ลูกยกมือไหว้ทุกคนเลยคุณแม่ภาคภูมิใจมากเลย และนี่คือสิ่งที่เราเฝ้าเพียรทำกับลูกอยู่ทุกๆวัน